×
อธิบายหลักฐานจากอัลกุรอานที่ระบุถึงความครอบคลุมของศาสนาอิสลาม อันเป็นศาสนาแห่งพระเจ้าสำหรับมวลมนุษยชาติ โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ สีผิว สถานที่และเวลา

    ความครอบคลุมของศาสนาอิสลาม

    [ ไทย ]

    عموم دين الإسلام

    [ باللغة التايلاندية ]

    มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม บิน อับดุลลอฮฺ อัต-ตุวัยญิรีย์

    محمد بن إبراهيم بن عبدالله التويجري

    แปลโดย: ยูซุฟ อบูบักรฺ

    ترجمة: يوسف أبوبكر

    ตรวจทาน: อุษมาน อิดรีส

    مراجعة: عثمان إدريس

    จากหนังสือ: มุคตะศ็อร อัล-ฟิกฮฺ อัล-อิสลามีย์

    المصدر: كتاب مختصر الفقه الإسلامي

    สำนักงานความร่วมมือเพื่อการเผยแพร่และสอนอิสลาม อัร-ร็อบวะฮฺ กรุงริยาด

    المكتب التعاوني للدعوة وتوعية الجاليات بالربوة بمدينة الرياض

    1429 – 2008

    ความครอบคลุมของศาสนาอิสลาม

    อิสลามเป็นศาสนาแห่งความเมตตาและเป็นทางนำแห่งมวลมนุษยชาติ ซึ่งอัลลอฮฺได้ประทานลงมาเป็นของกำนัลแด่มวลมนุษยชาติ โดยที่พระองค์ได้ส่งท่านนบีผู้นำแห่งบรรดาศาสนทูตและเป็นนบีท่านสุดท้าย และให้เกียรติแก่ประชาชาติของท่าน โดยการเรียกร้องเชิญชวนไปจนถึงวันกาลอวสาน

    1. อัลลอฮฺคือพระผู้อภิบาลแห่งมวลมนุษยชาติ สำหรับพวกเขาไม่มีพระผู้อภิบาลอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์ ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﮀ ﮁ ﮂ ﮃﮄ) [الناس/1].

    ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อพระผู้อภิบาลมวลมนุษยชาติ” (อันนาส 114: 1)

    2. อัลลอฮฺเป็นผู้มีอำนาจเหนือมวลมนุษยชาติ สำหรับพวกเขาไม่มีอำนาจอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์ ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﮅ ﮆﮇ) [الناس/2].

    ความว่า “อัลลอฮฺเป็นผู้มีอำนาจครอบครองมวลมนุษยชาติ” (อันนาส 114: 2)

    3. อัลลอฮฺเป็นพระเจ้าแห่งมวลมนุษยชาติ สำหรับพวกเขาไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์ ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﮈ ﮉ ﮊ) [الناس/3].

    ความว่า "อัลลอฮฺเป็นพระเจ้าแห่งมวลมนุษยชาติ” (อันนาส 114: 3)

    4. อัลลอฮฺได้ประทานอัลกุรอานลงมาเป็นทางนำแก่มวลมนุษยชาติ ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ) [البقرة/185].

    ความว่า “เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาเพื่อเป็นข้อแนะนำตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติ และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น และเป็นการแยกแยะสิ่งถูกผิด” (อัลบากอเราะฮฺ 2 : 185)

    5. อัลลอฮฺได้ส่งศาสนทูตของพระองค์คือมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มายังมวลมนุษยชาติทั้งผอง ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ) [سبأ/ 28].

    ความว่า “และเรามิได้ส่งเจ้าเพื่ออื่นใดนอกจากส่งมาเพื่อเป็นผู้แจ้งข่าวดีและผู้ตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติทั้งหมด แต่มนุษย์ส่วนมากกลับไม่รู้” (สะบะอฺ 34 : 28)

    6. อัลลอฮฺได้ใช้เราให้ผินหน้าไปทางกะบะฮฺ ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกที่ถูกสร้างแก่มวลมนุษยชาติ โดยที่พวกเขาละหมาดหันหน้าไปทางนั้นและประกอบพิธีฮัจญ์ที่นั่น ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜ ﯝ ﯞ) [آل عمران 96-97].

    ความว่า “แท้จริงบ้านหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับมนุษย์ (เพื่อการอิบาดะฮฺ) นั้นคือบ้านที่มักกะฮฺโดยเป็นสถานที่ที่ถูกทำให้ความจำเริญและเป็นทางนำแก่มวลมนุษยชาติ ในบ้านนั้นมีหลายสัญญาณที่ชัดแจ้งส่วนหนึ่งคือมะกอม อิบรอฮีมและผู้ใดได้เข้าไปในบ้านนั้นอันได้แก่ผู้ที่สามารถหาทางไปยังบ้านหลังนั้นและผู้ใดปฏิเสธแท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงมั่งมีเหนือประชาชาติทั้งหลาย(คือไม่ทรงพึ่งผู้ใดทั้งสิ้น) (อาละอิมรอน 3 : 96-97)

    7. อัลลอฮฺได้ยืนยันว่าประชาชาตินี้เป็นประชาชาติที่ประเสริฐที่สุดจากบรรดาประชาชาติที่ถูกบังเกิดขึ้นบนโลกนี้ อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﭞ ﭟ ﭠ ﭡ ﭢ ﭣ ﭤ ﭥ ﭦ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪ ) [آل عمران/110].

    ความว่า “พวกเจ้าเป็นประชาชาติที่ประเสริฐที่สุดซึ่งถูกอุบัติขึ้นแก่มวลมนุษยชาติ โดยที่พวกเจ้าใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามมิให้ปฏิบัติในสิ่งที่มิชอบ และพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺ” (อาละอิมรอน 3 :110)

    หะดีษ จากบะฮฺซี บิน หะกีม จากบิดาของเขาจากปู่ของเขากล่าวว่า ฉันได้ยินท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

    «أَلَا إنَّكُمْ تُوفُونَ سَبْعِينَ أُمَّةً أنْتُـمْ خَيْرُهَا وَأكْرَمُهَا عَلَى الله عَزَّ وَجَلَّ». أخرجه أحمد والترمذي

    ความว่า “พึงทราบเถิดว่า แท้จริงพวกท่านเป็นประชาชาติที่มาสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ 70 ประชาชาติ พวกท่านเป็นประชาชาติที่ประเสริฐและมีเกียรติที่สุด ณ อัลลอฮฺผู้ทรงเกียรติและสูงส่ง” (บันทึกโดยอะหมัด หมายเลข 20282 และอัตติรมิซีย์ หมายเลข 3001 )

    8. การเรียกร้องเชิญชวนสู่อัลลอฮฺและการเผยแผ่ศาสนาตั้งแต่ทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตก เป็นหน้าที่ของมวลมุสลิมทุกผู้ทุกนาม จนกระทั่งสามารถเชิดชูคำดำรัสแห่งอัลลอฮฺให้สูงส่งและทั้งหมดเข้าสู่ศาสนาเดียวกัน

    1. อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﮀ ﮁ ﮂ ﮃ ﮄ ﮅ ﮆ ﮇ ﮈ ﮉ ﮊ ﮋ ﮌ ﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﮑ ﮒ ﮓ) [يوسف/108].

    ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) นี่คือแนวทางของฉัน ฉันเรียกร้องไปสู่อัลลอฮฺอย่างประจักษ์แจ้งทั้งตัวฉันและผู้ที่ปฏิบัติตามฉัน และมหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺฉันมิได้อยู่ในกลุ่มบรรดาผู้ตั้งภาคี” (ยูซุฟ 12 : 108)

    2. อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ) [آل عمران/ 138].

    ความว่า “นี่คือข้อชี้แจงอันชัดเจนสำหรับมนุษย์และเป็นคำแนะนำที่ถูกต้อง และเป็นคำตักเตือนสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง” (อาละอิมรอน 3 : 141)

    3. อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﯨ ﯩ ﯪ ﯫ ﯬ ﯭ ﯮ ﯯ ﯰ ﯱ ﯲ ﯳ ﯴ ﯵ) [إبراهيم/52].

    ความว่า “นี่คือการประกาศแก่มวลมนุษยชาติเพื่อพวกเขาจะถูกเตือนด้วยมันและเพื่อพวกเขาจะได้รู้ว่าแท้จริงพระองค์คือพระเจ้าผู้เอกะ และเพื่อบรรดาผู้มีสติปัญญาจะได้รำลึก” (อิบรอฮีม 14 : 52)

    9. อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล เรียกร้องมนุษย์สู่การเคารพภักดีพระองค์แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่มีภาคีหุ้นส่วน ใดๆพร้อมพระองค์ ต้องรู้จักพระนาม คุณลักษณะ และการกระทำของพระองค์ และให้เกียรติแก่พวกเราที่เชิญชวนมนุษย์ไปสู่สิ่งดังกล่าว ประการแรกที่อัลกุรอานเชิญชวนมนุษยชาติสู่การเคารพภักดีพระองค์แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่มีภาคีหุ้นส่วน ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜ ﯝ ﯞ ﯟ ﯠ ﯡ) [البقرة/21-22].

    ความว่า “โอ้บรรดามนุษยชาติจงเคารพภักดีต่อพระผู้อภิบาลของพวกสูเจ้าผู้ที่ได้สร้างบรรดาสูเจ้าและบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกสูเจ้าเพื่อว่าพวกสูเจ้าจะได้ยำเกรง คือผู้ที่ประทานแผ่นดินให้เป็นที่นอนและชั้นฟ้าเป็นอาคารแก่พวกสูเจ้า และประทานน้ำฝนหลั่งลงมาจากฟากฟ้า แล้วได้ให้ผลไม้หลากหลายชนิดออกมาเนื่องจากน้ำนั้นเพื่อเป็นริสกีแก่พวกสูเจ้า ดังนั้นพวกสูเจ้าอย่าได้ยึดผู้ใดมาเทียบเคียงกับอัลลอฮฺ โดยที่พวกสูเจ้าก็รู้กันอยู่” (อัลบากอเราะฮฺ 2 : 21-22)

    10. อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล เป็นพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล สำหรับพวกเขาแล้วไม่มีพระผู้อภิบาลอื่นอีกแล้วนอกจากพระองค์ ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﭖ ﭗ ﭘ ﭙ ﭚ) [الفاتحة/2].

    ความว่า “การสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก” (อัลฟาติหะฮฺ 1 : 2)

    11. อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล ได้ส่งรอซูลของพระองค์คือนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพื่อมาตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติและนำความเมตตามายังพวกเขาตราบจนถึงวันกาลอวสาน อัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜﯝ) [الفرقان/1].

    ความว่า “ความจำเริญยิ่งแด่พระองค์ผู้ประทานอัลฟุรกอนแก่บ่าวของพระองค์ (มุฮัมมัด) เพื่อเขาจะได้ตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติ” (อัลฟุรกอน 25 : 1)

    และอัลลอฮฺตรัสว่า

    (ﮐ ﮑ ﮒ ﮓ ﮔ ﮕ) [الأنبياء/107].

    ความว่า “และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่มวลมนุษยชาติ” (อัลอัมบิยาอ์ 21 : 107)